1. น้ํามันปลา กิฟฟารีน Fish oil ขนาด 500 มก. 50 แคปซูล น้ํามันตับปลา
ถาม-ตอบ ข้อข้องใจเกี่ยวกับน้ํามันปลา โดย พ.ต.ท.นพ มั่น อุดมพาณิชย์ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ํามันปลา น้ํามันปลา เป็นน้ํามันที่สกัดได้มาจากปลา มีส่วนประกอบสําคัญคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่จําเป็นต่อระบบการทํางานต่างๆของร่างกาย และร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องได้รับจากการบริโภคอาหารเท่านั้น โดยโอเมก้า-3 ประกอบด้วยกรดไขมันที่สําคัญ 2 ชนิด คือ EPA และ DHA กรดไขมัน EPA (Eicosapentaenoic Acid) มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้ ป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทําให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองอุดตัน ช่วยลดอาการปวดอักเสบต่างๆ บรรเทาอาการข้อเสื่อม รวมทั้งข้ออักเสบรูมาตอยด์ในคนสูงอายุได้ กรดไขมัน DHA (Docosahexaenoic Acid) ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง การเรียนรู้ และความจํา ป้องกันความเสื่อมของสมอง ช่วยให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้สะดวกขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของเซลล์สมอง ช่วยพัฒนาด้านการมองเห็น ป้องกันความเสื่อมของระบบสายตา จึงมีประโยชน์ในผู้ที่ทํางานใช้สายตาหนักเป็นประจํา ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ํามันปลา คือหนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และ ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน จากการศึกษาพบว่า น้ํามันปลาสามารถลดระดับของไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ถึง 19-24% นอกจากนี้น้ํามันปลายังช่วยเพิ่มปริมาณของ HDL (High Density Lipoprotein) ซึ่งจะทําให้มีการเก็บคอเลสเตอรอลในเลือดและผนังหลอดเลือดกลับสู่ตับ และเปลี่ยนเป็นน้ําดีเพื่อขับออกนอกร่างกาย จากการทดลองพบว่าน้ํามันปลาสามารถใช้เป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวมและอักเสบของข้อได้ น้ํามันปลาช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน (Coronary Heart Disease) โดยกลไกของการจับตัวของเกร็ดเลือดทําให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้บางชนิด ช่วยลดความเครียด ในประเทศญี่ปุ่น ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่าสาร DHA ในน้ํามันปลานั้นมีส่วนสําคัญในการพัฒนาสมอง ช่วยบํารุงสมองให้ทํางานดีขึ้น และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท คําถามเกี่ยวกับน้ํามันปลา
Q: โอเมก้า 3 ในน้ํามันปลา แตกต่างจากโอเมก้า 6 อย่างไร?
A: โอเมก้า 3 และ 6 เป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนทั้งคู่
โดย: โอเมก้า 3 มักพบอยู่ในอาหารจําพวกปลาและอาหารทะเล ทําหน้าที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ป้องกันโรคหัวใจ ป้งอกันมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม โอเมก้า 6 มักพบอยู่ในน้ํามันถั่วเหลือง น้ํามันปาล์ม หากรับประทานมากเกินไปอาจทําให้เกิดการอักเสบ และอาจเกิดโรคร้ายต่างๆตามมา
Q: เราสามารถได้รับโอเมก้า 3 จากแหล่งไหนได้บ้าง และมีวิธีการเลือกทานอย่างไร?
A: แหล่งของโอเมก้า 3 มีอยู่ 2 แหล่ง ดังนี้ โอเมก้า 3 จากปลาทะเล ให้สารสําคัญในรูปของ EPA และ DHA โอเมก้า 3 จากพืช เช่น น้ํามันถั่วดาวอินา น้ํามันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น ที่ให้สารสําคัญในรูปของ ALA แนะนําในผู้ที่แพ้ปลา หรืออาหารทะเล โดย ALA จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น EPA และ DHA ก่อน จึงจะดูดซึมไปใช้ได้ ดังนั้นโอเมก้า 3 จากปลาทะเลจะถูกดูดซึมและนําไปใช้ได้ไวกว่า
Q: น้ํามันปลาช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองได้อย่างไร?
A: น้ํามันปลาช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) และลดการเกาะตั