![กิฟฟารีน#โบโรแคล #ปุ๋ยกิฟฟารีน](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
![กิฟฟารีน#โบโรแคล #ปุ๋ยกิฟฟารีน](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
![กิฟฟารีน โบโร แคล ปุ๋ย ช่วยพืชมีลําต้นที่แข็งแรง ช่วยในการแตกราก ทนแล้ง ป้องกันแมลง เชื้อรา ลดผลแตก ลดผลช้ําระหว่างจัดส่ง Giffarine](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
2. กิฟฟารีน โบโร แคล ปุ๋ย ช่วยพืชมีลําต้นที่แข็งแรง ช่วยในการแตกราก ทนแล้ง ป้องกันแมลง เชื้อรา ลดผลแตก ลดผลช้ําระหว่างจัดส่ง Giffarine
Giffarine แคลเซียมโบรอนกิฟฟารีน แคลเซียมคีเลท ปุ๋ย ท็อปเค โบโรแคล แมกนีเซีย ธาตุอาหารรอง ธาตุรอง สร้างใบเขียว สร้างสีเขียว ท็อปเค กิฟฟารีน, ท็อปเอ็น กิฟฟารีน, ธาตุหลัก, ธาตุอาหารหลักกิฟฟารีน, ปุ๋ยกิฟฟารีน, ปุ๋ยจับดอก ผลกิฟฟารีน, ปุ๋ยฉีดกิฟฟารีน, ปุ๋ยฉีดพ่นกิฟฟารีน, ปุ๋ยน้ําหนักกิฟฟารีน, ปุ๋ยผงกิฟฟารีน, ปุ๋ยสูตรเสมอกิฟฟารีน, ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน, ปุ๋ยโกรแม็กซ์กิฟฟารีน แคลเซียมคีเลท โบรอน ลําต้นที่แข็งแรง แตกราก ทนแล้ง ป้องกันแมลงและเชื้อรา ลดผลแตก เพื่อไม่ให้พลาดโปรแรงๆอย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะคะ โบโร-แคล กิฟฟารีน แคลเซียมคีเลทและโบรอน ช่วยให้พืชมีลําต้นที่แข็งแรง ช่วยในการแตกราก ทําให้พืชทนแล้ง ป้องกันแมลง และเชื้อรา เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสําคัญอีกตัวหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสําหรับพืช เพราะแคลเซียมช่วยให้พืชมีลําต้นที่แข็งแรง ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตและที่สําคัญอีกอย่างคือโบโร-แคล ยังมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับพืชได้อย่างดีอีกด้วยโบโร-แคล ประกอบด้วย แคลเซียม ในรูปของแคลเซียมคีเลทหรือในรูป แคลเซียม 9 และโบรอน 2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนําให้สมาชิกใช้ทุกครั้งที่มีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ยาป้องกันกําจัดแมลง ยาป้องกันกําจัดเชื้อรา เพราะ 1 พืชต้องการแคลเซียมทุกระยะการเจริญเติบโต และธาตุแคลเซียม เป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช หลังจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว 2 กระตุ้นการแตกราก ทําให้รากดูดน้ําและแร่ธาตุจากดินได้มากขึ้น 3 ทําให้พืชทนแล้ง เนื่องจากระบกรากหยั่งลึกและมีปริมารณมาก 4 ทําให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงมากสามารถป้องกันการเข้าทําลายของเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อราได้ดี 5 สามารถป้องกันโรคเชื้อราที่เกิดกับผลผลิตในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวหรือเก็บเกี่ยวไปแล้วจากเชื้อราได้ดี เช่น โรคก้นเน่าของมะเขือเทศ พริกหยวก พริกหวาน โรคราที่เปลือกของผลไม้ ผลจุดของฝรั่ง 6 เสริมสร้างความแข็งแรงของเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย ความแข็งแรงของรังไข่ แก้ปัญหาการหลุดร่วง 7 เพิ่มอัตราการเคลื่อนย้ายอาหารจากใบมาที่ผลหรือหัวหรือส่วนผลผลิตที่เก็บเกี่ยว ทําให้ผลผลิตมีน้ําหนักดี รสชาติดี ทนทานต่อการขนส่งและมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวนาน 8 ช่วยแก้ปัญหาไส้กลวง เนื่องจากขาดโบรอน ในหัวไชเท้าหรือการห่อหัวไม่แน่นของกะหล่ําปลี แก้ปัญหาดอกเป็นจุดดําของกะหล่ําดอกหมายเหตุ ใช้โบโร-แคล ทุกครั้งป้องกันเชื้อราอัตราการใช้ 5-10 กรัม/20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน ใช้ควบคู่กับเกรทกรีนตลอด)ช่วงที่มีโรคเชื้อรา แมลง เพลี้ยหนอน ระบาด ให้เพิ่มปริมาณเป็น 15-20 กรัม 20 ลิตร ฉีดพ่นเพื่อลดการระบาด รหัสสินค้า 5070 ปริมาณ 300 กรัมราคา 360 บาท รหัสสินค้า 5070 2 ปริมาณ 1 กก ราคา 984 บาท
![กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด ครบสูตรสําหรับนาข้าว ทุกระยะ](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
3. กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด ครบสูตรสําหรับนาข้าว ทุกระยะ
Giffarine ชุดยาหญ้าในนาข้าว 45 วัน ปุ๋ยเกล็ดสําหรับนาข้าว ปุ๋ยกิฟฟารีน 15 15 1 5 ปุ๋ยกิฟฟารีนครบสูตร ปุ๋ย เกล็ดกิฟฟารีน
![ปุ๋ย กิฟฟารีน โบโร-แคล 1 ก.ก. ช่วยการแตกราก ป้องกันผลหลุดร่วง แคลเซียม โบรอน แคลเซียม คีเลท ธาตุอาหารรอง ช่วยลดต้นทุน](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
4. ปุ๋ย กิฟฟารีน โบโร-แคล 1 ก.ก. ช่วยการแตกราก ป้องกันผลหลุดร่วง แคลเซียม โบรอน แคลเซียม คีเลท ธาตุอาหารรอง ช่วยลดต้นทุน
กดติดตามร้านมีส่วนลดให้ด้วยนะคะ มั่นใจ ร้านนี้ การันตี ผลิตภัณฑ์ Giffarine ของแท้ 100% ผลิตภัณฑ์ ในร้านทุกๆชิ้น เป็นสินค้าในสต็อกโดยตรง จากบริษัทกิฟฟารีน เบิกใหม่ทุกวัน ไม่มีค้างสต๊อก ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ปุ๋ย กิฟฟารีน โบโร-แคล ขนาด 1 กิโลกรัม โบโร-แคล คืออะไร คือ ธาตุอาหารรอง ที่ต้องการในปริมาณที่น้อย แต่ขาดไม่ได้ โดยธาตุอาหารสําคัญได้แก่ แคลเซียม และ โบรอน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีน เป็นสินค้านําเข้า และแคลเซียมที่ใช้อยู่ในรูปของคีเลท และโบรอนที่สามารถละลายน้ําได้ 100% โบโร-แคล ประกอบด้วย แคลเซียม ในรูปของแคลเซียมคีเลทหรือในรูป (Ca) 9%และโบรอน 2% เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนําให้สมาชิกใช้ทุกครั้งที่มีการ #ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ยาป้องกันกําจัดแมลง ยาป้องกันกําจัดเชื้อรา เพราะ........ 1 พืชต้องการแคลเซียมทุกระยะการเจริญเติบโต และธาตุแคลเซียม เป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช หลังจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว 2 โบโร-แคล #กระตุ้นการแตกราก ทําให้รากดูดน้ําและแร่ธาตุจากดินได้มากขึ้น 3 โบโร-แคล #ทําให้พืชทนแล้ง เนื่องจากระบบรากหยั่งลึกและมีปริมาณมาก 4 โบโร-แคล ทําให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงมากสามารถ #ป้องกันการเข้าทําลายของเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อราได้ดี 5 โบโร-แคล สามารถ #ป้องกันโรคเชื้อราที่เกิดกับผลผลิต ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวหรือเก็บเกี่ยวไปแล้วจากเชื้อราได้ดี เช่น #โรคก้นเน่าของมะเขือเทศ พริกหยวก พริกหวาน #โรคราที่เปลือกของผลไม้ #ผลจุดของฝรั่ง 6 โบโร-แคล #เสริมสร้างความแข็งแรงของเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย ความแข็งแรงของรังไข่ แก้ปัญหาการหลุดร่วง 7 โบโร-แคล เพิ่มอัตราการเคลื่อนย้ายอาหารจากใบมาที่ผลหรือหัวหรือส่วนผลผลิตที่เก็บเกี่ยว #ทําให้ผลผลิตมีน้ําหนักดี รสชาติดี #ทนทานต่อการขนส่ง และมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวนาน 8 โบโร-แคล #ช่วยแก้ปัญหาไส้กลวง เนื่องจากขาดโบรอนในหัวไชเท้าหรือการห่อหัวไม่แน่นของกะหล่ําปลี #แก้ปัญหาดอกเป็นจุดดําของกะหล่ําดอก อัตราการใช้ โบโร-แคล แนะนํา การใช้หลายอัตราขึ้นอยู่กับสภาพของพืช ดังนี้ – สภาพปกติ ใช้โบโร-แคล 1 ช้อนตวง (5 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน พร้อมปุ๋ยทางใบหรือพร้อมยาป้องกันกําจัดศัตรูพืช ยกเว้นยาฆ่าหญ้า เพื่อส่งเสริมให้พืชแข็งแรงเติบโตดี มีระบบรากดี ขั้วดอก-ผล เหนียวผลผลิตมีน้ําหนักดี – สภาพผิดปกติ เมื่อพืชเป็นโรคหรือเมื่อต้องการให้พืชต้านทานต่อการเข้าทําลายของเชื้อรา ใช้ 2 ช้อนตวง (10 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตร ถ้าเป็นมาก ๆอาจเพิ่มได้ถึง 3-4 ช้อนตวง ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพร้อมยาป้องกันกําจัดเชื้อราแต่การฉีดในอัตราสูง 3-4 ช้อนตวง ต่อน้ํา 20 ลิตร แนะนําให้ฉีดในช่วงระยะสั้นๆ 2-3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนี้ต้องกลับมาฉีดในอัตราปกติ (ไม่เกิน 1-2 ช้อนตวงต่อน้ํา 20 ลิตร)เมื่อต้องการให้พืชทนแล้ง ฉีดพ่นโบโร-แคลอัตรา 2 ช้อนตวง (10 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตรพร้อมๆ กับท็อป-เอ็น (30-0-0) อัตรา 100 ซีซี 2-3 ครั้งทุก 10 วัน– พืชผักกินใบ ระยะต้นเล็กมาก มี 2-3 ใบจริง ห้ามใช้โบโร-แคล 10 กรัม/น้ํา 20 ลิตร จะทําให้ผักอั้นใบ ต้นไม่ค่อยยืดขยาย ให้ใช้เพียง 2-5 กรัม/น้ํา 20 ลิตร กลุ่มธาตุอาหารรอง-เสริม ธาตุอาหารรอง-เสริม คือ กลุ่มธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อย ปัจจุบัน มักแสดงอาการขาดธาตุเหล่านี้เนื่องจากดินขาดหรือ ถ้าดินไม่ขาดแต่เกษตรกรขาดการบํารุงรักษาดินทําให้ธาตุเหล่านี้ไม่สามารถถูกปลดปล่อยจากดินได้สิ่งที่ควรคํานึงถึง 1 ธาตุกลุ่มนี้ ได้แก่ แคลเซีย
![กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ น้ํามันจมูกข้าวสาลี วิตามินดี ชนิดแคปซูล บํารุงผิว ชะลอวัย ผิวแลดูกระจ่างใส กิฟฟารีน อาหารเสริม](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
5. กิฟฟารีน แอสตา คิว พลัส แคโรทีนอยด์ น้ํามันจมูกข้าวสาลี วิตามินดี ชนิดแคปซูล บํารุงผิว ชะลอวัย ผิวแลดูกระจ่างใส กิฟฟารีน อาหารเสริม
Giffarine น้ํามันจมูกข้าวกิฟฟารีน น้ํามันรําข้าวกิฟฟารีน giffarine official แคตตาล็อก กิฟฟารีน จมูกข้าวกิฟฟารีน
![[ส่งฟรี] กิฟฟารีน ปุ๋ยมะนาว ปุ๋ยทางใบ ระยะบํารุงใบและผล ขยายลูก Giffarine](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
6. [ส่งฟรี] กิฟฟารีน ปุ๋ยมะนาว ปุ๋ยทางใบ ระยะบํารุงใบและผล ขยายลูก Giffarine
กิฟฟารีน ปุ๋ยมะนาว ปุ๋ยทางใบ ระยะบํารุงใบและผล ขยายลูก มะนาวนอกฤดูเป็นที่สนใจเพราะมีราคาแพงกว่าปกติ (มะนาวที่ออกมาสู่ตลาดมาก) มีการสรรหาสารเคมีหรือฮอร์โมนหรือมีการอวดอ้างสรรพคุณกันมากกว่าจะทําให้ออกได้ แต่หลักการทั่วไป เราสามารถทําให้มะนาวออกนอกฤดูได้ง่ายพร้อมๆ กับใช้ผลิตภัณฑ์ เกษตรกิฟฟารีน ดังต่อไปนี้
อัตราการผสม : น้ํา 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน เกรทกรีน อัตราผสม 3 ซีซี โบโรแคล อัตราผสม 10 กรัม โกรแมกซ์ 20-20-20 อัตราผสม 100 กรัม เม็กก๊าซิงค์ อัตราผสม 5 กรัม Giffarine
![โบโรแคล แคลเซียมโบรอน ปุ๋ยกิฟฟารีน ลดต้นทุน ช่วยให้พืชทนแล้ง ต้านทานโรค](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
7. โบโรแคล แคลเซียมโบรอน ปุ๋ยกิฟฟารีน ลดต้นทุน ช่วยให้พืชทนแล้ง ต้านทานโรค
โปรโมชั่น ส่งฟรี โดยไม่ต้องกดรับโค้ดใดๆ สินค้าส่งตรงจากศูนย์กิฟฟารีนทุกวัน โบโรแคล (
แคลเซียม:โบรอน) โฉมใหม่
6:2 -กระตุ้นการแตกรากของพืชได้อย่างดี -ช่วยทําให้พืชทนแล้ง -ทําให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงมาก สามารถป้องกันการทําลายของเชื้อโรคได้ดี -สามารถป้องกันเชื้อราได้ดี -เพิ่มอัตราการเคลื่อนย้ายอาหารจากใบ มาสู่ผล หรือ หัว ทําให้น้ําหนักดี รสชาติดี มีอายุการเก็บเกี่ยวนาน -เป็นธาตุอาหารพื้นฐานของพืชทุกระยะการเจริญเติบโต โบโร-แคล ประกอบด้วย แคลเซียม ในรูปของแคลเซียมคีเลทหรือในรูป (Ca) 6%และโบรอน 2% เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนําให้สมาชิกใช้ทุกครั้งที่มีการ #ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ยาป้องกันกําจัดแมลง ยาป้องกันกําจัดเชื้อรา เพราะ 1 พืชต้องการแคลเซียมทุกระยะการเจริญเติบโต และธาตุแคลเซียม เป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช หลังจากเป็นส่วนประกอบของเซลล์แล้ว 2 โบโร-แคล #กระตุ้นการแตกราก ทําให้รากดูดน้ําและแร่ธาตุจากดินได้มากขึ้น 3 โบโร-แคล #ทําให้พืชทนแล้ง เนื่องจากระบบรากหยั่งลึกและมีปริมาณมาก 4 โบโร-แคล ทําให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงมากสามารถ #ป้องกันการเข้าทําลายของเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อราได้ดี 5 โบโร-แคล สามารถ #ป้องกันโรคเชื้อราที่เกิดกับผลผลิต ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวหรือเก็บเกี่ยวไปแล้วจากเชื้อราได้ดี เช่น #โรคก้นเน่าของมะเขือเทศ พริกหยวก พริกหวาน #โรคราที่เปลือกของผลไม้ #ผลจุดของฝรั่ง 6 โบโร-แคล #เสริมสร้างความแข็งแรงของเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย ความแข็งแรงของรังไข่ แก้ปัญหาการหลุดร่วง 7 โบโร-แคล เพิ่มอัตราการเคลื่อนย้ายอาหารจากใบมาที่ผลหรือหัวหรือส่วนผลผลิตที่เก็บเกี่ยว #ทําให้ผลผลิตมีน้ําหนักดี รสชาติดี #ทนทานต่อการขนส่ง และมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวนาน 8 โบโร-แคล #ช่วยแก้ปัญหาไส้กลวง เนื่องจากขาดโบรอนในหัวไชเท้าหรือการห่อหัวไม่แน่นของกะหล่ําปลี #แก้ปัญหาดอกเป็นจุดดําของกะหล่ําดอก อัตราการใช้ โบโร-แคล แนะนํา การใช้หลายอัตราขึ้นอยู่กับสภาพของพืช ดังนี้ – สภาพปกติ ใช้โบโร-แคล 1 ช้อนตวง (5 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน พร้อมปุ๋ยทางใบหรือพร้อมยาป้องกันกําจัดศัตรูพืช ยกเว้นยาฆ่าหญ้า เพื่อส่งเสริมให้พืชแข็งแรงเติบโตดี มีระบบรากดี ขั้วดอก-ผล เหนียวผลผลิตมีน้ําหนักดี – สภาพผิดปกติ เมื่อพืชเป็นโรคหรือเมื่อต้องการให้พืชต้านทานต่อการเข้าทําลายของเชื้อรา ใช้ 2 ช้อนตวง (10 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตร ถ้าเป็นมาก ๆอาจเพิ่มได้ถึง 3-4 ช้อนตวง ต่อน้ํา 20 ลิตร ฉีดพร้อมยาป้องกันกําจัดเชื้อราแต่การฉีดในอัตราสูง 3-4 ช้อนตวง ต่อน้ํา 20 ลิตร แนะนําให้ฉีดในช่วงระยะสั้นๆ 2-3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนี้ต้องกลับมาฉีดในอัตราปกติ (ไม่เกิน 1-2 ช้อนตวงต่อน้ํา 20 ลิตร)เมื่อต้องการให้พืชทนแล้ง ฉีดพ่นโบโร-แคลอัตรา 2 ช้อนตวง (10 กรัม) ต่อน้ํา 20 ลิตรพร้อมๆ กับท็อป-เอ็น (30-0-0) อัตรา 100 ซีซี 2-3 ครั้งทุก 10 วัน– พืชผักกินใบ ระยะต้นเล็กมาก มี 2-3 ใบจริง ห้ามใช้โบโร-แคล 10 กรัม/น้ํา 20 ลิตร จะทําให้ผักอั้นใบ ต้นไม่ค่อยยืดขยาย ให้ใช้เพียง 2-5 กรัม/น้ํา 20 ลิตร กลุ่มธาตุอาหารรอง-เสริม ธาตุอาหารรอง-เสริม คือ กลุ่มธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อย ปัจจุบัน มักแสดงอาการขาดธาตุเหล่านี้เนื่องจากดินขาดหรือ ถ้าดินไม่ขาดแต่เกษตรกรขาดการบํารุงรักษาดินทําให้ธาตุเหล่านี้ไม่สามารถถูกปลดปล่อยจากดินได้สิ่งที่ควรคํานึงถึง 1 ธาตุกลุ่มนี้ ได้แก่ แคลเซียม (Ca) แม็กนีเซียม (Mg) กํามะถัน (s)เหล็ก (Fe) สังกะสี (Zn) ทองแดง (Cu) แมงกานีส (Mn) โบรอน (B)โมลิบดินั่ม (Mo) และคลอลีน (Cl) 2 ธาตุเหล่านี้ ถ้าขาดพืชจะเจริญเติบโตผิดปกติ ถ้าขาดมากพืชจะตาย 3 ควรสังเ
![กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด ครบสูตรสําหรับนาข้าว ทุกระยะ ฉีดพ่นด้วยโดรน](https://dummyimage.com/150/e6e6e6/ffffff.png&text=Loading...)
8. กิฟฟารีน ปุ๋ยเกล็ด ครบสูตรสําหรับนาข้าว ทุกระยะ ฉีดพ่นด้วยโดรน
Giffarine ปุ๋ยเกล็ดสําหรับนาข้าว ปุ๋ยกิฟฟารีน
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อแคตตาล็อกปุ๋ยกิฟฟารีนแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง แคตตาล็อกปุ๋ยกิฟฟารีน นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในแคตตาล็อกปุ๋ยกิฟฟารีนอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ แคตตาล็อกปุ๋ยกิฟฟารีนแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้